วันจันทร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ประวัติฟุตบอลโลก

เป็นที่ทราบกันดีว่าทุก ๆ 4 ปี มหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่และมีผู้ให้ความสนใจทั่วโลกอย่าง "ฟุตบอลโลก" (world cup) จะแวะเวียนมาบรรจบ ให้เพื่อน ๆ ได้ร่วมลุ้นร่วมเชียร์ทีมที่ชื่นชอบ โดย สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า (F.I.F.A.) จะทำการคัดเลือกประเทศที่มีศักยภาพผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ "ฟุตบอลโลก" ซึ่งคราวนี้ในการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2010 (พ.ศ.2553) ก็เป็นหน้าที่ของประเทศแอฟฟริกาใต้ที่รับเป็นเจ้าภาพการแข่งขัน โดย ฟุตบอลโลก 2010 จะเริ่มทำการแข่งขันระหว่างวันที่ 11 มิถุนายน ถึงวันที่ 11 กรกฎาคมนี้ ทั้งนี้ เชื่อได้เลยว่าคอบอลทั้งหลายต่างตั้งตารอคอยการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2010 พร้อม ๆ กับท่องจำ ตารางบอลโลก 2010 จนขึ้นใจ อะ ๆ แต่จะมีแฟนพันธุ์แท้ ฟุตบอลโลก ซักกี่คนจำหรือรู้ถึง ประวัติฟุตบอลโลก แบบละเอียดยิบบ้าง เพราะฉะนั้น เพื่อไม่ให้เป็นการตกเทรนด์ กระปุกดอทคอมเลยจะพาเพื่อน ๆ เข้าไปคลุกวงในเปิด ประวัติฟุตบอลโลก กัน ใครอยากรู้ว่าตามเราเข้ามาเลย... ฟุตบอลโลก หรือ ฟุตบอลโลกฟีฟ่า (FIFA World Cup) เป็นการแข่งขันฟุตบอลระหว่างประเทศ โดย ฟุตบอลโลก เริ่มครั้งแรกในปี ค.ศ.1930 (พ.ศ.2473) สำหรับผู้ริเริ่มให้มีการแข่งขัน ฟุตบอลโลก ครั้งแรกคือ จูลส์ ริเมท์ (Jules Rimet) เป็นชาวฝรั่งเศส โดยได้เสนอในที่ประชุมของประเทศสมาชิกสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ เมื่อปี ค.ศ.1902 (พ.ศ.2445) แต่กว่าจะลงตัวและเริ่มจัดขึ้นจริง ๆ คือปี ค.ศ.1930 ซึ่งประเทศที่ได้เกียรติเป็นเจ้าภาพ ฟุตบอลโลก ครั้งแรกได้แก่ ประเทศอุรุกวัย โดยมีประเทศที่เข้าร่วมแข่งขันทั้งหมด 13 ชาติ และประเทศอุรุกวัยก็คว้าแชมป์โลกไปครองได้สำเร็จ ด้วยการเอาชนะประเทศอาร์เจนตินาไป 4-2 ประตู ทั้งนี้ เพื่อเป็นเกียรติแด่ จูลส์ ริเมท์ ถ้วยรางวัลชนะเลิศจึงใช้ชื่อ "ถ้วยจูลส์ ริเมท์"


จากนั้นก็มีการจัดการแข่งขัน ฟุตบอลโลก ต่อเนื่องมาทุก 4 ปี โดยครั้งที่ 2 จัดขึ้นในปี ค.ศ.1934 (พ.ศ.2477) ที่ประเทศอิตาลี ผลปรากฏว่าทีมเจ้าภาพก็คว้าแชมป์โลกไปครองได้อีก ด้วยการเอาชนะประเทศเชโกสโลวาเกีย ส่วนครั้งที่ 3 จัดขึ้นในปี ค.ศ.1938 (พ.ศ.2481) ที่ประเทศฝรั่งเศส แต่ประเทศอิตาลียังยอดเยี่ยมคว้าแชมป์โลกไปครองได้อีกสมัย แต่หลังจากฟุตบอลโลกครั้งที่ 3 การแข่งขันต้องหยุดชะงักไป 12 ปี (ค.ศ.1942, 1946) เนื่องจากเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 และได้มาเริ่มแข่งขันครั้งที่ 4 ในปี ค.ศ.1950 (พ.ศ.2493) โดยประเทศบราซิลรับเป็นเจ้าภาพ ท่ามกลางความขัดแย้งของหลาย ๆ ชาติ เนื่องจากควันหลงจากสงครามโลกนั่นเอง ต่อมาในปี ค.ศ.1970 (พ.ศ.2513) ประเทศบราซิลได้คว้าแชมป์โลกเป็นสมัยที่ 3 จึงได้สิทธิ์ครอบครอง ถ้วยจูลส์ ริเมท์ (ซึ่งภายหลังได้ถูกขโมยไป) ทางสมาชิกสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติจึงได้จัดทำถ้วยรางวัลขึ้นมาใหม่ โดยใช้ชื่อว่า "ถ้วยฟีฟ่า" ทำด้วยทองคำ มีความสูง 36 เซนติเมตร มูลค่าประมาณ 4 แสนดอลลาร์สหรัฐฯ และใช้มาจนถึงปัจจุบัน ขณะเดียวกัน ในปี ค.ศ.1982 (พ.ศ.2524) ซึ่งเป็นการแข่งขันฟุตบอลโลก ครั้งที่ 12 ทางสมาชิกสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติได้ปรับเปลี่ยนจำนวนทีมเข้าแข่งขันจากเดิม 16 ทีม เป็น 24 ทีม และในปี ค.ศ.1998 (พ.ศ.2541) ต่อมาก็เพิ่มจาก 24 ทีมเป็น 32 ทีม เนื่องจากฟุตบอลเริ่มได้รับความนิยมไปแพร่หลายทั่วโลก แต่ละประเทศมีการพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาก จึงน่าจะมีทีมที่ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายมากขึ้นตามไปด้วย จนได้ชื่อว่าเป็นการแข่งขันกีฬาที่มีผู้ชมมากที่สุดในโลก




















วันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2553

10 เกาะสวย-ดีที่สุดในโลก

อันดับที่ 1 เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย
อันดับที่ 2 หมู่เกาะกาลาปาโกส ประเทศเอกวาดอร์

อันดับที่ 3 เกาะเคป เบรตัน ในรัฐโนวา สโกเชีย ประเทศแคนาดา

อันดับที่ 4 เกาะคาอูอิ ฮาวาย สหรัฐอเมริกา

อันดับที่ 5 เกาะ Mount Desert ในรัฐเมน สหรัฐอเมริกา

อันดับที่ 6 เกาะมาอูอิ ฮาวาย สหรัฐอเมริกา

อันดับที่ 7 หมู่เกาะเอโอเลียน ประเทศอิตาลี

อันดับที่ 8 หมู่เกาะมัลดีฟส์ สาธารณรัฐมัลดีฟส์

อันดับที่ 9 เกาะบิ๊ก ไอส์แลนด์ ฮาวาย สหรัฐอเมริกา

อันดับ 10 เกาะแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา

วันอังคารที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ทำไมต้องมีเค้กในงานวันเกิด


เพื่อนๆ เคยสงสัยกันไหมคะ ว่าทำไมในวันเกิดจะต้องมีเค้กวันเกิด และใครเป็นผู้เริ่มให้มีเค้กในวันเกิด ...ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์อาหารเชื่อว่าเค้กวันเกิดมีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่สมัยโบราณกาลแล้ว เนื่องจากคนสมัยก่อนชอบทำขนมอบจำพวกขนมเค้กและขนมปังเพื่อใช้บูชาในงานพิธีกรรมทางศาสนางานแต่งงาน งานศพ รวมถึงงานวันเกิดด้วยในสมัยกรีกมีร่องรอยทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับตำนานเค้กวันเกิดระบุเอาไว้ว่าเป็นขนมหวานสำหรับบูชาเทพีจันทรา โดยชาวเมืองกรีกนิยมทำเค้กน้ำผึ้งหรือขนมปังหวานรูปวงกลมเพื่อนำไปบูชาเทพีจันทราที่วิหารอาร์เทอมิส ขณะที่นักทฤษฎีบางสำนักเชื่อว่า จุดเริ่มต้นของเค้กวันเกิดมีขึ้นครั้งแรกในประเทศเยอรมนีช่วงยุคกลาง ซึ่งเป็นยุคแห่งความรุ่งเรืองของศาสนาคริสต์โดยชาวคริสต์จะทำขนมปังหวานเป็นรูปพระเยซูทรงอยู่ในผ้าห่อตัวในประสูติเพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ที่ระลึกในวันคล้ายวันประสูติของพระองค์ในเวลาต่อมา ชาวเมืองเบียร์ก็เลยได้ไอเดียใหม่ ทำเค้กเพื่อฉลองวันเกิดให้แก่เด็ก ๆและจากนั้นมา ธรรมเนียมเช่นนี้ก็ถูกปฏิบัติสืบทอดต่อ ๆ กันมาจวบจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ทั้งนี้ ไม่ว่าเค้กวันเกิดจะเกิดขึ้นจากทฤษฎีใดก็ตาม จะสังเกตได้ว่าจุดเริ่มต้นก็ล้วนมาจากทางฝั่งยุโรปทั้งสิ้น ดังนั้น จึงอาจจะสรุปได้ว่าธรรมเนียมการเป่าเค้กวันเกิดเริ่มต้นจากฝั่งตะวันตก